หน้าเว็บ

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กนกพงศ์ สงสมพันธุ์


กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ นักเขียนหนุ่มผู้เกิดและดับก่อนกาล

เกิดเมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๙ ที่อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง จบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนพัทลุง
แล้วเข้าศึกษาต่อสาขาวิชาบริหารธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ทว่าไม่จบ
และออกมาทำงานด้านสำนักพิมพ์ในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนหันไปใช้ชีวิตคลุกคลีกับชาวบ้านแถบเทือกเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช
เป็นนักเขียนรางวัลซีไรต์ ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ จากหนังสือรวมเรื่องสั้น "แผ่นดินอื่น"
เป็นสมาชิกก่อตั้งของกลุ่มนาคร เคยเป็นบรรณาธิการหนังสือไรเตอร์ แมกกาซีน
ทั้งได้รับรางวัลช่อการะเกดสองครั้ง จากเรื่องสั้น สะพานขาด และเรื่องสั้น โลกใบเล็กของซัลมาน

กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ นักเขียนซีไรต์กลุ่มนาคร
ผู้ร่วมก่อตั้งวงสะพานสมัยเล่นตามมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๙



ผลงาน

    ป่าน้ำค้าง (๒๕๓๒) กวีนิพนธ์
    สะพานขาด (๒๕๓๔) รวมเรื่องสั้นชุดที่ ๑
    คนใบเลี้ยงเดี่ยว (๒๕๓๕) รวมเรื่องสั้นชุดที่ ๒
    แผ่นดินอื่น (๒๕๓๙) รวมเรื่องสั้นรางวัลซีไรต์ พ.ศ. ๒๕๓๙ รวมเรื่องสั้นชุดที่ ๓
    บันทึกจากหุบเขาฝนโปรยไพร (๒๕๔๔) ความเรียงเชิงบันทึกทัศนะ
    ยามเช้าของชีวิต (๒๕๔๖) เรื่องเล่าเชิงบันทึกทัศนะ
    โลกหมุนรอบตัวเอง (๒๕๔๘) รวมเรื่องสั้นชุดที่ ๔
    ในหุบเขา (๒๕๔๙) กวีนิพนธ์
    นิทานประเทศ (๒๕๔๙) รวมเรื่องสั้นชุดที่ ๕
    รอบบ้านทั้งสี่ทิศ (๒๕๔๙) รวมเรื่องสั้นชุดที่ ๖
    กวีตาย (๒๕๔๙) สองเรื่องสั้นเล่มเล็ก

กนกพงศ์ สงสมพันธุ์

กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ จะเดินทางไปสู่ 'แผ่นดินอื่น' เมื่อเช้าของวันจันทร์ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๙
ที่โรงพยาบาลนครินทร์ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ด้วยโรคปอดชื้น กระทั่งติดเชื้อและเสียชีวิตลงในวัยเพียง ๔๐ ปี

นับเป็นการสูญเสียนักเขียนฝีมือฉกาจฉกรรจ์ของวงการวรรณกรรมแห่งประเทศไทย

.

วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

บ้านดำนางแล Thawan Duchanee

คลิปก่อนได้ชมและฟังอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี แสดงทัศนะและมุมมองกันแล้ว
ก็เลยถือโอกาสไหลไปกับรายการคู่เลิฟตะลอนทัวร์ ตอน เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านดำ กันต่อ

ถวัลย์ ดัชนี มีโภคทรัพย์อันเกิดจากการวาดรูปค่อนข้างมากในความรู้สึกของคนทั่วไป
แต่สำหรับถวัลย์แล้ว เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญสูงสุด เงินไม่ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆ มากนัก
เขายังคงเป็นถวัลย์ ดัชนี ผู้มีชีวิตเรียบง่าย นอบน้อมถ่อมตน
ยังคงกินน้อย นอนน้อย ทำงานวาดรูปมาสม่ำเสมออยู่เช่นเดิม
โดยถวัลย์ผันเงินส่วนใหญ่ไปทำประโยชน์แก่วงการศิลปะ ทั้งวงการศึกษาและการสร้างสรรค์งาน
ด้วยหวังว่าวันหนึ่งสังคมไทยจะให้ความสำคัญแก่ศิลปะและการสร้างสุนทรียรสให้แก่ผู้คนยิ่งๆ ขึ้น

ปัจจุบัน อาจารย์ถวัลย์ทุ่มเทเวลาส่วนหนึ่งในการฟูมฟักศิลปสถาน
บ้านดำนางแล
414 หมู่ 13 ตำบลนางแล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57100



อาจารย์ถวัลย์รังสรรค์บ้านเกิดให้กลายเป็นสถานที่ศึกษาศิลปวัฒธรรมของชาติ
ด้วยการจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้านในเนื้อที่กว่าร้อยไร่
ประกอบด้วยอาคารสถาปัตยกรรมแบบกาแลกว่า ๔๐ หลัง
และอาคารสถาปัตยกรรมท้องถิ่นประยุกต์หลายหลังสำหรับจัดแสดงศิลปะพื้นบ้าน (Folk Art)
ซึ่งเป็นงานสร้างสรรค์ของช่างท้องถิ่น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
มรดกวัฒนธรรมท้องถิ่นเหล่านี้ ถวัลย์ ดัชนี ใช้เวลารวบรวมด้วยความตั้งใจมาเป็นเวลานานกว่า ๒๕ ปี

.

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ศิลปินเหนือโลก Thawan Duchanee

รายการวาระประเทศไทย ปีที่ ๒ ตอน คนไทยระดับโลก
ศิลปินเหนือโลก ศิษย์ยุคท้ายๆ ของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

ถวัลย์ ดัชนี (๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๒) จิตรกรและช่างเขียนรูปแห่งดอยสูงเชียงราย
โดยได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๔๔
และเป็นผู้มีภาพวาดมูลค่าภาพสูงถึง 60 ล้านบาท



ประวัติการศึกษา
พ.ศ. ๒๔๘๕-๒๔๙๑ ศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม จังหวัดเชียงราย
พ.ศ. ๒๔๙๑-๒๔๙๘ ศึกษาระดับมัธยมที่โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม จังหวัดเชียงราย
พ.ศ. ๒๔๙๘-๒๕๐๐ ศึกษาระดับประโยคครูประถมการช่าง (ปปช.) จากโรงเรียนเพาะช่าง
พ.ศ. ๒๕๐๐-๒๕๐๕ ศึกษาประดับปริญญาตรีศิลปบัณฑิต (เกียรตินิยม) จากคณะจิตรกรรม ปฏิมากรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร
พ.ศ. ๒๕๐๖-๒๕๑๒ ศึกษาระดับปริญญาโท  ด้านสาขาจิตรกรรมฝาผนัง อนุสาวรีย์ ผังเมือง
และระดับปริญญาเอก สาขาอภิปรัชญาและสุนทรียศาสตร์ ที่ราชวิทยาลัยศิลปแห่งชาติ อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์

ถวัลย์ ดัชนี (Thawan Duchanee)

ตอนถวัลย์ ดัชนี เรียนอยู่ที่ศิลปากรในชั้นปีที่ ๑ นั้น
ถวัลย์ทำคะแนนการวาดรูปได้ถึง 100+ แต่เมื่อขึ้นปี ๒ เขากลับทำได้แค่ 15 คะแนน
เพราะเหตุผลที่ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ให้ไว้ว่า...
"ปลาของนายไม่มีกลิ่นคาว นกของนายแหวกว่ายไปในอากาศไม่ได้ 
ม้าของนายไม่สามารถที่จะควบหรือวิ่งทะยานออกไปได้ นายเป็นเพียงแค่นักลอกรูป มันไม่ใช่งานศิลปะ..."

.

วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

รักแท้ที่มองไม่เห็นของแม่

การบอกรักของแม่ อาจมีได้มากกว่าคำว่า "แม่รักลูก"
ความรักของแม่ที่มีต่อลูกนั้นมีอยู่ทุกที่ ทุกเวลา และทุกลมหายใจ
บางทีอาจเป็นคำง่ายๆ หรือประโยคที่ได้ยินบ่อยจนชิน



Mums show love in lots of ways not just saying "I Love You"
แม่บอกรักคุณอยู่ทุกวัน แต่คุณอาจมองไม่เห็น
คุณพร้อมตอบแทน รักแท้ที่มองไม่เห็นของแม่ หรือยัง...

.

วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ค่าน้ำนม

เพลง "ค่าน้ำนม" มีหลายเวอร์ชั่น และหลายคนร้อง
แต่ก็เลือกเวอร์ชั่นที่เป็นเสียงเด็กๆ แล้วกัน

เพลง "ค่าน้ำนม" แต่งเนื้อร้องโดย บรมครูไพบูลย์ บุตรขัน
โดยมีการขับร้องและบันทึกเสียงครั้งแรกโดย ชาญ เย็นแข เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๒
ซึ่งได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมากมาย




...แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง 
ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล
แม่...เราเฝ้าโอ้ละเห่ 
กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเหไปจนไกล
แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม
แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดจากรักลูกปักดวงใจ
เติบ...โตโอ้เล็กจนใหญ่
นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม

.

ขอเสริมประวัติเพลงนี้เพิ่ม โดยยืมข้อความของคุณ eurekraft จากเว็บ pantip

เพลงนี้ผู้แต่งคือครูเพลงผู้ยิ่งใหญ่ ครูไพบูลย์ บุตรขัน
แต่ท่านได้ขายลิขสิทธิ์ให้ ครูสง่า อารัมภีร์ นำมาบันทึกแผ่นเสียง
ผู้ที่ร้องบันทึกแผ่นเสียงเป็นครั้งแรกคือ ชาญ เย็นแข
แต่ภายหลังรู้สึกว่าจะมีการนำมาบันทึกเสียงกันอีกหลายครั้ง
รวมทั้งสมยศ ทัศนพันธ์ด้วย (ผมดูจากคาราโอเกะ)
การบันทึกแผ่นเสียงครั้งแรก มีเรื่องสนุกๆ เกิดขึ้น ลองติดตามต่อไป
เรื่องที่ผมเล่านี้ผมฟังมาจากปากของครูชาญ เย็นแข ทีเดียว (แต่ฟังทางวิทยุครับ)

เพลงค่าน้ำนมนี้ บันทึกแผ่นเสียงครั้งแรกเมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๔๙๒
เป็นวันที่นายทุนทำแผ่นเสียงสมัยนั้นกำหนดนัดหมายผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาเข้าห้องอัดกัน
คนที่ร้องเพลงนี้ที่กำหนดไว้ คือนักร้องดังสมัยนั้น ชื่อ บุญช่วย หิรัญสุนทร เจ้าของเพลงน้ำตาแสงไต้
ส่วนชาญ เย็นแข ตอนนั้นอายุได้ ๒๐ ปี ยังไม่มีชื่อเสียง เป็นเพียงแค่นักร้องสลับฉากละครคณะศิวารมณ์
แต่มักจะติดตามครูสง่า อารัมภีร์ ไปซ้อมเพลงอยู่บ่อยๆ จนกระทั่งร้องเพลงค่าน้ำนมได้

เมื่อวันบันทึกแผ่นเสียงมาถึง วงดนตรีมารอพร้อม (สมัยนั้นต้องเล่นกันสดๆ บันทึกพร้อม กันไปเลย)
อุปกรณ์พร้อม แต่นักร้องยังไม่มา เนื่องจาก บุญช่วย นักร้องดังไปเชียงใหม่ ยังกลับมาไม่ทัน
นายทุนทำแผ่นเสียงกระวนกระวายและก็บ่นว่ารอไม่ได้แล้ว
ครูสง่าบอกให้ชาญ เย็นแข ร้องแทนได้ไหม เพราะร้องได้อยู่แล้ว
นายทุนบอกขืนให้ร้องแผ่นอัดมาขายไม่ได้ ขาดทุนแย่ เพราะไม่มีใครเคยได้ยินชื่อชาญ เย็นแข
เมื่อรอนานจนหมดความหวัง ก็เลยลองให้ชาญ เย็นแข ทดสอบร้องดู
พอได้ฟังเสียง นายทุนก็ตัดสินใจให้ชาญ เย็นแข นักร้องจำเป็น ร้องเพลงค่าน้ำนมบันทึกเสียง

ครูชาญ เย็นแข เล่าว่าท่านร้องประมาณ ๔-๕ รอบก็ใช้ได้ วันนั้นครูชาญได้ค่าตัว ๕๐ บาท
(อย่าลืมว่าสมัย พ.ศ. ๒๔๙๒ เงินดอลลาร์สหรัฐ ๑ เหรียญเท่ากับเงินไทย ๗ บาท)
แผ่นเสียงที่ท่านร้องอัดแผ่นเป็นแผ่นเสียงตราค้างคาว

ชาญ เย็นแข นั้นได้ชื่อว่า “เกิด” จากเพลงค่าน้ำนมก็ว่าได้ ทั้งๆ ที่เขาเกือบจะไม่ได้ร้องเพ­ลงนี้อยู่แล้ว
โดยตอนแรกมีการวางตัวให้บุญช่วย หิรัญสุนทร นักร้องดังอีกคนของยุคนั้นเป็นค­นร้อง
แต่ปรากฏว่าบุญช่วยไม่มาห้องอัด­ตามนัด
จึงมีการนำเพลงนี้มาให้หนุ่มที่­เพิ่งชนะการประกาศขับร้องมาไม่เ­ท่าไหร่ เป็นผู้ขับร้องแทน
และเขาก็ทำได้ดีมาก สมัยนั้นเป็นการบันทึกเสียงแบบร้องสดๆ ไป­กับวงดนตรี

วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หยาดเหงื่อเพื่อแม่

เพลง หยาดเหงื่อเพื่อแม่
ขับร้องโดย เสถียร ทำมือ กับ ตั๊กแตน ชลดา



ลูกทำงานหนัก เพราะอยากเห็นแม่พักผ่อน
สิ่งใดบั่นทอน ปล่อยวางเสียบ้างเถิดหนา
ลูกเสียเหงื่อไป บ่เสียดายดอกนะแม่จ๋า
ขอเพียงวันลูกคืนนา ได้เห็นแม่มีสุขใจ

.

วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555

How did she do it?

ใกล้วันแม่แล้วสำหรับคนไทยแดนด้ามขวาน
คิดๆ อยู่ว่า...ช่วงนี้อยากหาคลิปหรือเพลงที่เกี่ยวกับแม่มาลงบล็อกนี้



เนื้อเรื่องประมาณว่า...

มีหญิงชราคนหนึ่งเดินทางมาประเทศเวเนซุเอลา แล้วถูกเจ้าหน้าที่จับ โดยคิดว่าเธอนำสิ่งผิดกฏหมายเข้ามา
เธอเป็นชาวไต้หวัน ทั้งไม่มีใครรู้จักเธอ หญิงชราพยายามอธิบายกับพวกเขาว่า มันเป็นยาสมุนไพรจีน
โดยซื้อมาเพื่อจะนำไปทำซุปให้ลูกส­าวที่เพิ่งคลอดลูก ซึ่งเธอไม่ได้พบเจอลูกสาวมาเป็นนานหลายปีแล้ว

Tsai Yin Mei หญิงชราวัย 63 ปี เธอไม่เคยออกเดินทางมาก่อนในชีว­ิต และพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
เธอต้องเดินทางดั้งด้นเพียงลำพังเป็นเวลาถึ­ง 3 วัน ข้าม 3 ประเทศ ไกลเกินกว่า 32,000 กิโลเมตร

ทำไมเธอถึงทำเช่นนั้น...?
Tenacity, Courage, Love

.

วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555

โฆษณากระทิงแดง

ถ้าดูแรกๆ อาจนึกว่าเป็นโฆษณาของไทยประกันชีวิต

เนื้อเรื่อง...ลูกชายทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ แล้วแม่ก็เดินทางจากต่างจังหวัดมาเยี่ยมลูก
จากนั้นก็ตามชมกันเอง...



ทุกคนมีเป้าหมายของชีวิต แต่เราลืมอะไรไปบ้างระหว่างทางไปสู่เป้าหมาย
ลืม....???

.

วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555

บางระจัน Bangrajun

ตำนานประวัติศาสตร์ของ วีรชนบ้านบางระจัน ที่สละเลือดเสียเนื้อและเสียชีวิตเพื่อชาติ

ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายก่อนที่ไทยจะเสียกรุงครั้งที่ ๒ ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์
โดยเนเมียวสีหบดี แม่ทัพของพม่าได้ยกทัพเข้ามาตั้งค่ายอยู่ที่เมืองวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง
ได้สั่งให้ทหารพม่าออกปล้นทรัพย์สินเงินทองและเสบียงอาหารจากชาวบ้านคนไทย ซึ่งหญิงสาวชาวบ้านถูกทหารพม่าข่มเหงรังแก
คนไทยเดือดร้อนและเจ็บแค้นมากจึงชักชวนชาวบ้านให้ต่อสู้กับพม่า
มีหัวหน้าคนไทยหกคน คือ นายแท่น นายโชติ นายอิน นายเมือง นายดอก นายทองแก้ว
ได้ออกอุบายหลอกลวงพม่าไปฆ่าตายหลายครั้ง

จากนั้นก็พากันหลบหนีไปหาพระอาจารย์ธรรมโชติ ที่วัดเขาบางนางบวช เมืองสุพรรณบุรี
ท่านพระอาจารย์โชติได้แจกผ้าประเจียดลงยันต์คาถาอาคมแก่ชายฉกรรจ์เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
มีชาวบ้านที่กล้าหาญติดตามมาอยู่ด้วยประมาณ ๔๐๐ คน
โดยมีบุคคลสำคัญที่เป็นหัวหน้าเพิ่มขึ้นอีกห้าคน คือ
ขุนสรรค์ นายจันทร์หนวดเขี้ยว นายทองเหม็น นายทองแสงใหญ่และพันเรือง
ช่วยกันตั้งค่ายบางระจันขึ้นต่อสู้และขัดขวางการรุกรานของพม่า
รวมแล้วพม่าส่งทหารเข้ามาปราบถึง ๗ ครั้ง จนกระทั่งครั้งที่ ๘ จึงสามารถเอาชนะได้



พม่าเข้าตีบ้านบางระจันแตกเมื่อเดือน ๘ พ.ศ. ๒๓๐๙ รวมเวลาต่อสู้กับพม่านานถึงห้าเดือน
ชาวบ้านบางระจันทุกคนปักหลักต่อสู้อย่างองอาจกล้าหาญจนตัวตาย
พวกเขาอุทิศชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยให้คงอยู่
วีรกรรมของชาวบ้านบางระจันยังคงตราตรึงอยู่ในใจของคนไทยตราบนานเท่านาน
เพื่อระลึกถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ ความกล้าหาญ และรักชาติของชาวบ้านบางระจัน
ทางราชการจึงได้สร้างอนุสาวรีย์ชาวบ้านบางระจันขึ้น
บนเนินสูงหน้าค่ายบางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี เพื่อเป็นอนุสรณ์สืบต่อไป...

.


วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555

น้องน้ำมนต์เสียงสวรรค์ ๒

น้องน้ำมนต์โตขึ้น น่ารักขึ้น และก็ขาวขึ้นนะนี่ ><
(พวกบริษัทโลชั่น เครื่องสำอาง หรือสบู่ น่าจะจองตัวน้องไว้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาเนิ่นๆ)
ขณะเสียงร้องก็ยังเพราะใส หน้าตาและอารมณ์ก็คลอเคล้าไปกับเนื้อเพลงอย่างกลมกลืน
โดยคลิปนี้ น้องน้ำมนต์ได้ cover เพลง "ทราย" ของ วัชราวลี พลัส มาขับกล่อมกำนัล




 ...จะกอดเธอไปจนเช้า แสงดาวกระทบที่ข้างฉัน
ให้ไออุ่นกายเราผูกกัน ฉันนั้นรักเธอเหลือเกิน

จะกอดเธออยู่อย่างนี้ ข้ามคืนผ่านพ้นราตรีนี้
จวบจนสิ้นแสงแห่งชีวี ก็ยังรักเธอเหลือเกิน...

Nammon


.